ONESIAM Extraordinary Mom - พัฒน์ บุณนิธิพัฒน์
ONESIAM Extraordinary Mom: “แม่เป็นผู้ให้ คือความเป็นแม่ที่เด่นชัดในความรู้สึกผมที่สุด” - พัฒน์ บุณนิธิพัฒน์
ONESIAM ขอมอบความรักอันไม่มีเงื่อนไขของมนุษย์ผู้หญิงที่ชื่อว่า “แม่” ให้กับทุกท่าน ผ่านเรื่องราวความเป็นแม่ของ พัฒน์ บุณนิธิพัฒน์ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “หลานม่า” กับคุณแม่สุวรรณี สวัสดิเกียรติกุล (ซิว) คุณแม่วัย 60 ปีที่เขาบอกว่า “แม่ผมเป็นผู้หญิงผมสั้น สักตามตัว ใส่แว่นเฟี้ยวๆ แม่สตรอง อินดิเพนเดนต์ ทำงานเยอะมากๆ และแม่…เป็นผู้ให้”
พัฒน์เล่าว่าเขาโตมากับอาม่า อาม่ามีลูก 5 คน และแม่ของเขาเป็นลูกคนสุดท้อง “แม่ทำงานตลอดเวลา ผมเลยมีอาม่าเลี้ยง พ่อผมก็กลับบ้านอาทิตย์ละครั้ง แม่ทำงานรับเหมาก่อสร้าง ตกแต่งภายใน บ้านเราเป็นโรงกลึง แม่ทำงานเสร็จก็ยังต้องไปออกกำลัง แม่ทำงานเลยเป็นภาพจำของผม”
ถามพัฒน์ว่าอะไรในตัวแม่ที่เชื่อมโยงให้เขาเป็นเขาในวันนี้ “แม่ไม่เคยบอกว่า ‘ห้ามทำ’ แม่ไม่เคยบอกว่า ‘ต้องเรียนสายนี้’ แม่ให้อิสระทุกอย่าง เป็นฟีลแบบชีวิตใครชีวิตมัน ผมเลยรู้สึกว่าเราได้รับการเคารพ เราก็เลยเคารพเขา แล้วเวลาเราพูดอะไรแม่จะไม่เคยตัดสินเลย เวลาผมพูดอะไรแม่จะฟัง ก็เลยเวลาแม่พูดอะไร ผมก็ฟังเหมือนกัน”
ความอิสระและการไม่ตัดสินทำให้พัฒน์ได้เข้าใจว่า แม่เลี้ยงเขาด้วยความรักที่มาจากการฟัง “ทั้งแม่และพ่อเลยที่ไม่เคยตัดสิน ตอนที่ผมบอกว่าอยากเรียนนิเทศ พ่อกับแม่ก็แค่บอกว่าโอเค อยากเรียนก็เอาสิ แค่นั้นเลย” สิ่งนี้เลยทำให้ก่อเป็นความสบายใจของพัฒน์ในการใช้ชีวิต และเรื่องราวที่ผ่านการพูดคุยกันของเขาและแม่
“ตอนเด็กๆ เราไม่รู้ตัวหรอกว่าเราสบายใจกับเขา น้อยมากๆ ที่ผมจะไม่เล่าเรื่องผมให้เขาฟัง เพราะผมรู้สึกปลอดภัย ต่อให้แม่ทำงานหนักยังไง ผมก็เลยไม่รู้สึกว่าเรามีระยะห่างกัน” และที่แม่เป็นเช่นนี้พัฒน์บอกว่าก็น่าจะมาจากอาม่าด้วย “เหมือนอาม่าของผมในหนังหลานม่าเลย อาม่าเป็นแนวใครอยากทำอะไรก็ทำ อาม่าแค่ก้มหน้าก้มตาเลี้ยงลูกอย่างเดียว ลูกแต่ละคนเลยมีเส้นทางชีวิตไปคนละทาง”
ในความรู้สึกของพัฒน์นอกจากแม่จะให้อิสระกับเขาเต็มๆ แล้ว ความรู้สึกที่เขามีต่อแม่ที่สุดคือ “แม่เป็นผู้ให้” นี่ล่ะ “แม่บอกว่าเป็นผู้ให้สบายใจกว่าเป็นผู้รับ ผมกับน้องเลยเห็นแม่ให้ผู้คนมาตั้งแต่เด็กๆ ที่บางทีเราก็หงุดหงิดนะ แต่แม่ให้มาตลอด จนตอนนี้ผมรู้เลยว่าเป็นนิสัยที่นึกถึงคนอื่นก่อนของแม่ มันยิ่งใหญ่กว่าเราไปเลย ทำให้เราคิดเลยว่าไม่เกี่ยวเลยที่ใครจะเก่ง จะรวยยังไง เราขอชื่นชมคนๆ นี้ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ที่สามารถคิดสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเราโดยพื้นฐานได้ ผมเลยกึ่งๆ ว่ามีแม่เป็นไอดอล”
สุดท้ายถามพัฒน์ว่าอยากบอกอะไรกับคุณแม่ เขาบอกว่า “ไม่อยากให้แม่คิดมาก ชีวิตเขาสุขสบายทุกอย่างแล้ว แม่เป็นผู้ให้แบบนี้ล่ะ”
ONESIAM ขอขอบคุณคุณพัฒน์ และคุณแม่ที่ได้มอบความรักผ่านเรื่องราวในวันแม่ครั้งนี้ และขอส่งความสุข ความอบอุ่นนี้ต่อให้คุณแม่และลูกๆ ทุกท่าน